top of page

ตะวันกับเหมียว ตอนที่ 25 ลิปสติก

แดดอ่อนๆยามเย็นกับตัวเลขบนหน้าจอสัมผัส บอกเวลากับพวงกุญแจว่าสี่โมงเย็น

ประตูบ้านเปิดเข้าและปิดลง รองเท้าคู่หนึ่งถูกถอดแล้ววางเข้าที่ สวิตช์ไฟในบ้านเปิดไว้แล้ว หลอดไฟส่องแสงสว่างจากทางเดินตรงประตูยาวไปจนถึงห้องครัว

พวงกุญแจเดินทางผ่านประตูห้องโซฟาที่มีรองเท้าสนิปเปอร์ถอดอยู่ ลูกกุญแจส่งเสียงกระทบกันแล้วหยุดลงบนโต๊ะอาหาร ขวดวิตามินซีวางลงกลางโต๊ะใกล้กับฝาชีขนาดเล็กสองฝา ตู้เย็นรับรู้การกลับมาของน้องสาวเพราะถูกเปิดหยิบขวดน้ำ

ในห้องครัว เหมียวกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับวิตามินซีหนึ่งขวด แล้วก็ทรงผมที่เปลี่ยนไปนิดหน่อย เหมียวรินน้ำใส่แก้วของตัวเองแล้วเติมความสดชื่นให้ร่างกาย น้ำเย็นสองแก้วใหญ่ถูกดื่มหมดอย่างรวดเร็วเพราะควากระหาย

เหมียวดื่มน้ำแล้วนั่งพิงเก้าอี้ บิดขี้เกียจแล้วมองฝาชีบนโต๊ะตรงหน้า ฝาชีที่ด้านในมีจานข้าวผัดของเมื่อเช้า กับอีกฝามีถ้วยเล็กใส่ไข่ต้ม เหมียวเห็นสิ่งที่เหลืออยู่ชัดเจนเมื่อเปิดฝาชี ไข่ต้มหนึ่งฟองกับข้าวผัดประมาณสองพับพีพร้อมช้อนกลาง ข้าวผัดกุ้งใส่ไข่สองฟอง มีกุ้งเหลืออยู่สองตัวโดยกุ้งถูกจัดวางเป็นรูปหัวใจ

เหมียวอมยิ้มกับผลงานที่คนตื่นสายเหลือไว้ ก่อนจัดการกินจนหมดแล้วปิดท้ายด้วยไข่ต้มกับวิตามินซี จานถูกล้างทันทีหลังจากกินเสร็จ เพราะมีจานกับถ้วยอีกเพียบรออยู่ในอ่างล้างจาน บวกกับความที่กำลังว่างอยู่

เหมียววุ่นอยู่กับอ่างล้างจานในห้องครัวขณะที่คนตื่นสายยังอยู่ในห้องโซฟา

ห้องโซฟาถูกปรับอากาศเป็นยี่สิบห้าองศามาพักใหญ่ ตะวันอยู่ในห้องนี้ ยังนั่งพิงโซฟาแล้วก็อ่านหนังสือ ยังไม่รู้ว่าน้องกลับมา

ตะวันอ่านอยู่พักใหญ่ก่อนจะละสายตา ลุกจากโซฟาไปเข้าห้องน้ำ ตะวันส่องกระจกอยู่แป๊บนึงก่อนรวบผมให้เรียบร้อยถอดแว่นแล้วล้างหน้า

เสียงน้ำไหลจากก๊อกลงล่างไม่นานก็หยุด ตะวันเช็ดหน้าแล้วกลับเข้าห้องโซฟาอีกครั้ง ขณะเดียวกันเหมียวเพิ่งจะล้างจานเสร็จ

เหมียวจัดจานทั้งหมดที่ล้างแล้ว ในตะกร้าเก็บจานอย่างเป็นระเบียบ ดูนาฬิกาจากโทรศัพท์ จะห้าโมงเย็นแล้ว

ประตูห้องโซฟาค่อยๆเปิดออก แล้วปิดลงเบาๆ อุณหภูมิเปลี่ยนไปทันทีที่ก้าวเข้ามา เหมียวตรงมาหยุดอยู่หลังโซฟา โซฟาที่มีคนตื่นสายนั่งพิงอยู่ เหมียวสังเกตสิ่งของที่ตั้งอยู่บนโต๊ะด้านหน้าแล้วซบลงหลังโซฟา สายตามองคนที่กำลังหลับ

"จะห้าโมงเย็นแล้ว น้องสาวไม่กลับบ้านไม่เป็นห่วงกันบ้างหรอ ตื่นนอนก็สายแล้วมานอนอยู่บนเตียงหนูได้ยังไง เค้กวานิลาของหนูอยู่ไหน แอบเอากล้องมาเล่นหรอ แล้วไปทำอะไรพี่ลาเต้ที่ร้านหนังสือ...

เหมียวแตะหน้าผากกับแก้มตะวัน

…ทำไมตัวร้อน ติดหวัดกันหรอ พี่ลาเต้บอกว่าปกติดี แล้วทำไมถึงตัวร้อน...

พี่วัน ตื่นได้แล้ว เป็นคนขี้เกียจตั้งแต่เมื่อไหร่"

"แค่อยากพิงโซฟาอ่านหนังสือ พี่ไม่ได้ขี้เกียจ" ตะวันตอบแล้วเงยหน้ามองเหมียว

"เราตัดผมหรอ" ตะวันถาม

เหมียวทำนิ้วฉับๆที่ผมหน้าม้า พยักหน้าแล้วก็ยิ้ม

"พี่วันอย่าหยิกแก้ม"

"แบบนี้ก็น่ารักดีนะ" ตะวันพูดแล้วบีบแก้มเหมียวย้ำๆ "ทำไมแก้มนุ่มแบบนี้"

"แก้มก็ต้องนุ่มสิ ว่าแต่ ทำไมไม่ล้างจาน ทำไม~"

"ว่าจะล้างหลังจากกินมื้อเย็น เราไม่ต้องทำก็ได้ นั่นงานพี่"

"หนูกินข้าวผัดหมดแล้ว ไข่ต้มด้วย แล้วก็ล้างจานทั้งหมดในอ่าง" เหมียวจับข้อมือตะวันทั้งสองข้างที่จับแก้มตัวเอง "พี่วันมือเย็นมาก"

"เมื่อกี้เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแล้วก็ล้างมือ กลับมาเจออากาศเย็นในห้อง มือก็เลยเย็นขึ้น" ตะวันตอบแล้วเปลี่ยนจากนั่งพึงโซฟาเป็นชันเข่าหันหน้าหาเหมียว "มือเย็นมากจริงๆต้องแบบนี้" ตะวันจับหูเหมียวทั้งสองข้าง

เหมียวก้มหน้านิดหน่อยแล้วมองตา

"ฮิฮิ เย็นละสิ"

"ไม่ ไม่เย็นเล้ย" เสียงสูง

"อะไรคือบอกว่าไม่เย็นแล้วยิ้ม ชอบใจใช่ไหมเจ้าเหมียว ชอบใจใช่ไหม~" ตะวันใช้นิ้วโป้งบีบเน้นติ่งหูเหมียวไปมาเบาๆ

เหมียวยิ้ม

"เย็นแล้วไม่หิวหรอ พี่วันจะกินอะไร บอกมา"

"พี่ยังไม่คิดเมนู เรากินข้าวไปแล้วนี่ ยังอยากกินอีกหรอ"

"กินอีกสิ ข้าวผัดที่กินไปมันนิดเดียวเอง"

"งั้นทำผัดถั่วงอกใส่หมูสับกับเต้าหู้ไหม เบื่อไข่รึยัง ไข่ดาวไหม รึไข่เจียว ต้มกระดูกหมูด้วยไหมมีกระดูกอ่อน รึทำเป็นต้มยำดี"

ตะวันบรรยายไปก็บีบเน้นติ่งหูเหมียวไปด้วย

"เอาผัดถั่วงอก ทำต้มกระดูกหมูอ่อนด้วยก็ได้ ทำเผื่อไว้กินพรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้"

"ได้สิ งั้นไปทำมื้อเย็นเถอะ"

"อื้ม"

2

ในห้องครัว ตะวันกับเมียวเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้วสำหรับสองเมนู ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะทำต้มกระดูกหมูก่อน แล้วตะวันจะทำผัดถั่วงอกเอง ก่อนหน้านี้เหมียวไปหุงข้าวแล้วกลับมาเป็นลูกมือตะวัน

วัตถุดิบสำหรับต้มกระดูกหมูคือ กระดูกหมูอ่อน แครอทกับหัวไชเท้าหั่นเป็นชิ้น กระเทียมปอกเปลือก รากผักชี พริกไทยเม็ด เกลือป่น ซีอิ้วขาว และผักชีกับต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า

ตะวันต้มน้ำจนเดือด ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยแล้วก็เกลือป่นลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วใส่กระดูกหมูอ่อนลงไปต้ม ตะวันปิดฝาหม้อรอให้เนื้อเปื่อย แล้วหันไปทำผัดถั่วงอกต่อ

เหมียวมองวัตุดิบที่ตะวันแยกไว้ กระเทียมทุบไม่ละเอียดมาก ถั่วงอกล้างสะอาด หมูสามชั้น เต้าหู้หั่นเป็นชิ้นๆสำหรับทอด ซีอิ้วขาวกับน้ำตาล

ตะวันบอกเหมียวว่าจะทำผัดถั่วงอก แล้วก็ลงมือ ตะวันเริ่มจากใส่น้ำมันปริมาณมากสำหรับทอดเต้าหู้ แล้วเปิดเตาแก๊ส รอให้น้ำมันร้อนได้ที่ ตะวันสังเกตจากควันที่มากขึ้น จากนั้นก็ลงเต้าหู้ในกระทะ เสียงของน้ำมันทอดเต้าหู้กับฟองอากาศค่อยๆเปลี่ยนสีของเต้าหู้ให้เหลืองกรอบ ตะวันทอดประมาณสองนาทีแล้วตักเต้าหู้ขึ้นสะเด็ดน้ำมัน วางลงในจานที่เตรียมไว้ เหมียวมองเต้าหู้ทอดอย่างคาดหวัง ตะวันเทน้ำมันส่วนนึงลงในถ้วย โดยเหลือไว้ส่วนนึงสำหรับผัด พอน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่กระเทียมลงไป เจียวกระเทียมให้หอม เร่งไฟแล้วใส่หมูสามชั้น ตะวันผัดหมูพอสุกแล้วใส่ถั่วงอกที่เตรียมไว้ ตามด้วยเต้าหู้ ปรุงรสด้วยน้ำตาลกับซีอิ้ว จากนั้นผัดให้เข้ากัน

ตะวันผัดไม่นานก็บอกให้เหมียวช่วยหยิบจาน เป็นสัญญาณว่าเมนูแรกเสร็จแล้ว ผัดถั่วงอกหมูสามชั้นร้อนๆกับเต้าหู้ทอด ส่งกลิ้นหอมไปทั่วทั้งครัว

"น่ากิน" เหมียวถือจานผัดถั่วงอกไว้ "ทอดไข่เจียวสักฟองแล้วกินกันก่อนดีไหม" เหมียวถามตะวัน

"รอเดี๋ยวสิ รอต้มกระดูกหมูด้วย"

"มันต้องรออีกนานกว่าเนื้อจะเปื่อย"

"ถ้าจะกินก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่ช้อนฟองออกแล้วใส่แครอทกับหัวไชเท้า รอประมาณสิบห้านาที ปรุงรสนิดหน่อยก็ได้กินแล้ว หรือตักน้ำซุปราดไข่เจียวก็อร่อยนะ"

"งั้น ก็ได้ "

"ดูสีหน้าเราสิ ฮิฮิ"

"อยากกินๆ" เหมียววางจานผัดถั่วงอกบนโต๊ะอาหาร "หนูทอดไข่เจียวให้แล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลา พี่วันจะใส่หมูสับด้วยไหม"

"จัดไป" ตะวันตอบ

แล้วทั้งสองคนก็ช่วยกันทำอีกสองเมนู ไข่เจียวหมูสับกับต้มกระดูกหมู เหมียวใช้เวลาไม่นานทอดไข่เจียวแล้วมานั่งรอตะวันที่โต๊ะกินข้าว ตะวันตามมาติดๆขณะที่หม้อหุงข้าวบอกว่าข้าวสุกแล้ว ตะวันบอกเหมียวว่ากินกันก่อนก็ได้ เดี๋ยวพอต้มกระดูกหมูได้ที่แล้วพี่จะไปตักมาเสิร์ฟเอง เหมียวตอบตกลง แล้วเมื้อเย็นก็เริ่มขึ้น

จานข้าวสวยร้อนๆสองจานบนโต๊ะกินข้าว กับผัดถั่วงอกและไข่เจียวหมูสับ ตะวันตักผัดถั่วงอกให้เหมียว ถั่วงอกเน้นๆกับหมูสามชั้นแล้วก็เต้าหู้ เหมียวยิ้มอย่างพอใจแล้วขอบคุณ

"เอาไข่เจียวคืนไปก็แล้วกัน" เหมียวตักให้ตะวันบ้าง

"งั้นกินแล้วนะ" ตะวันประเดิมไข่เจียวหมูสับกับข้าวสวย

เหมียวเองก็จัดการผัดถั่วงอก

"อื้อ อร่อย~" เหมียวยิ้ม

"ก็คนทำเก่งไง" ตะวันชมตัวเอง "แต่ไข่เจียวหมูสับก็อร่อยนะ"

"แน่นอน" เหมียวเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ย

ตะวันมองแล้วก็อดยิ้มไม่ได้

"วันนี้ตามพี่ไปร้านหนังสือใช่ไหม พี่เต้บอกพี่" ตะวันถาม

เหมียวพยักหน้าตอบ

"แล้วยังไงต่อ"

"หนูคุยกับพี่เต้อยู่พักใหญ่ แล้วก็อ่านหนังสือ แล้วก็กลับบ้าน" เหมียวตักไข่เจียว "แล้วพี่วันล่ะ"

"พี่ตื่นสาย ไปร้านหนังสือพี่เต้ กลับบ้าน อ่านหนังสือ แล้วก็ว่าง วันนี้พี่ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย"

"นั่นไง พี่วันเป็นคนขี้เกียจแล้ว ฮิฮิ"

"แล้วใครทำเมื้อเย็นให้แมวกิน หือ"

"ใครหว่า" เหมียวลุกขึ้น "หนูจะตักน้ำซุปใส่ถ้วยนะ พี่วันจะกินกระดูกอ่อนไหม" เหมียวถาม

"เอาชิ้นนึง"

เหมียวตอบว่ารอแป๊บ แล้วจัดการตักน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ จากหม้อใส่ถ้วยมาเสิร์ฟ

"เราไม่กินหรอ"

"ไม่ แต่จะซดน้ำซุป" เหมียวพูดแล้วก็ลงมือชิม

"เป็นไงบ้าง"

"ก็ ใชได้"

ตะวันฟังคำตอบแล้วลองชิมบ้าง

"อืม ก็ใช้ได้...

ตะวันสบตาน้อง

ไว้พี่จะปรุงเพิ่มนะ"

เหมียวพยักหน้า

ตะวันรู้คำตอบของน้องแล้ว และจู่ๆตะวันก็เอะใจ

"อะไรหรอ" เหมียวถามขณะที่ตะวันล้วงหยิบบางอย่างในกระเป๋า

"โทรศัพท์เข้าน่ะ เอ๊ะ"

เหมียวทำสีหน้าสงสัย

"พ่อ พ่อโทรมา" ตะวันบอกน้อง

"จริงหรอ" เหมียวแสดงอาการสนใจ

ตะวันยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้น้องดู แล้วบอกว่ารับสายสิเปิดลำโพงด้วยนะ เหมียวรับโทรศัพท์มาแล้วกดรับทันที

(สวัสดีครับ) เสียงพ่อ

"สวัสดีค่ะ"

(อ้าว น้องรับหรอ คิดว่าจะเป็นวันซะอีก)

"หนูเอง หนูรับเอง พี่วันบอกว่าจะให้หนูรับเอง"

(ค่า งั้นพ่อคุยกับเหมียวนะ เป็นไงบ้าง ได้ข้าวว่าเมื่อวานกลับบ้านแล้วไม่สบาย)

"เมื่อวานภูมิแพ้แสดงอาการนิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไร แข็งแรงแล้ว"

(หรอคะ ดีจัง แล้วเมื่อวานดูหนังสนุกไหม)

"สนุกคะ สนุกมาก เมื่อวานพี่วันเลี้ยงเค้กด้วย แล้วก็ซื้อเสื้อให้ด้วยสองตัวเลย"

(หรอคะ ดีจัง แล้วได้ของฝากรึเปล่า เค้กวานิลลา)

"ได้แล้วค่ะ แต่พี่วันแย่งกินไปหมดแล้ว"

(อ้าว แย่งน้องได้ไง เจ้าพี่ชาย)

"ฮิฮิ ไม่เป็นไรค่ะ ไว้พ่อซื้อให้หนูไหมก็ได้"

(งั้นคราวหน้าเป็นเค้กส้มดีไหม)

"เค้กส้มหรอ ดีมากเลย"

ตะวันสังเกตเหมียวยิ้มตั้งแต่เริ่มคุยกับพ่อ

"แล้วจะกลับบ้านเมื่อไหร่หรอคะ" เหมียวถาม

(อืม ยังไม่มีกำหนดคะ พ่อต้องเดินทางอยู่เรื่อยๆ ถ้าได้กลับหรือผ่านไปก็จะกระทันหัน เหมือนกับเมื่อวานที่พ่อซื้อของฝากมา พ่อก็ไม่คิดมาก่อนว่าต้องขับรถผ่านบ้านเรา)

"หรอคะ...

เหมียวเงียบไปครู่หนึ่ง

...พ่อเดินทางบ่อยก็ดูแลสุขภาพด้วยนะ ห้ามป่วยนะ"

(ค่า ขอบใจที่เป็นห่วงนะ เราก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ/คุณ เดี๋...) มีเสียงแทรกเข้ามา (อา ได้สิ) พ่อตอบเสียงนั้น (น้องเหมียว เดี๋ยวพ่อต้องทำธุระต่อนะ ไว้ค่อยคุยกันนะ ถ้างั้นก็)

"พ่อคะ" เหมียวพูดขึ้น

(คะ)

"หนูรักพ่อนะ"

...

(ค่า พ่อก็รักน้องนะ รักพี่วันด้วย รักทั้งสองคนเลย แล้วไว้คุยกันนะ)

"อือ" เหมียวตอบ

แล้วพ่อก็วางสาย

...

เหมียวส่งโทรศัพท์คืนให้ตะวันด้วยท่าทีนิ่งๆ

"เป็นยังไงบ้าง" ตะวันถาม

"ก็ดีนะ แต่ได้คุยกับพ่อนิดเดียวอีกแล้ว...

เหมียวก้มหน้ามองจานข้าว

...มีเสียงผู้หญิงพูดแทรกด้วย เมื่อวานก็มี แล้วพ่อก็วางสาย"

(น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อ พี่ว่านะ)

"อืม หนูก็คิดแบบนั้น"

"ไม่ต้องคิดมากหรอก กินข้าวกัน อ้ำๆ" ตะวันตักเต้าหู้แล้วป้อนเหมียว

"อ้ำ" เหมียวกัดเต้าหู้ "ไม่ต้องป้อนหนูก็ได้นะ" เหมียวพูดแก้มตุ่ย

ตะวันยื่นเต้าหู้ให้อีกชิ้น

"อ้าม" ตะวันป้อนอีกแล้ว

"ฮึ่ย อ้ำ" เหมียวจัดการเต้าหู้ชิ้นที่สองโดยที่ชิ้นแรกยังไม่กลืน

"ฮิฮิ ดูแก้มเราสิ น่ารักเชียว"

เหมียวหยุดเคี้ยวแล้วทำหน้าบึ้งใส่ตะวัน

"พี่ก็รักเรานะ" : )

3

ในห้องนอนของเหมียว เครื่องปรับอากาศทำให้อุณหภูมิห้องเย็นขึ้น หลังจากที่กินเมื้อเย็นแล้ว ตะวันกับเหมียวแยกกันไปใช้เวลาส่วนตัว ทั้งคู่อาบน้ำแล้วต่างคนก็อยู่ในห้องตัวเอง เหมียวในชุดนอนกำลังนั่งกดปุ่มกล้องถ่ายรูป เลื่อนดูภาพถ่ายบนหน้าจอแสดงผลไปเรื่อยๆ บนเตียง

เวลาตอนนี้คือสามทุ่ม เหมียวปิดกล้องแล้วกำลังจะลุกขึ้นไปปิดไฟ สายตามองไปที่สวิทช์ไฟขณะที่ประตูถูกเปิดออก ยังไม่ทันลุกจากเตียง ตะวันก็เปิดประตูเข้า ตะวันในชุดนอนตรงเข้ามาหาเหมียว

"ยังไม่นอนหรอ"

"หนูกำลังจะลุกขึ้นไปปิดไฟ พี่วันเข้ามาซะก่อน" เหมียวตอบ

ตะวันหยุดอยู่หน้าเหมียว แล้วสังเกตกล้องถ่ายรูปที่วางอยู่ข้างๆ

"กล้องถ่ายรูป...

ตะวันจ้องน้อง

...พี่เห็นแล้วนะ รูปที่เราถ่ายน่ะ"

"รูปที่หนูถ่าย เอ๊ะ" เหมียวเอะใจ

"ตากล้องอะไรถ่ายคนอื่นตอนหลับ แล้วรอยลิปติกคืออะไร หือ"

"รอยลิปสติกคือ..."

"เหมียวจุ๊บพี่ใช่ไหม"

เหมียวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ

"พี่วันเริ่มก่อน หนูเอาคืนเมื่อวานตอนกินข้าว" เหมียวเชิดหน้าตอบ "ถือว่าหายกัน"

"ไม่ พี่โกรธแล้ว"

...

เหมียวมองตะวันแล้วกางแขนไปด้านหน้า

"บอกกันตรงๆก็ได้ว่าจะกอด หนูรู้"

"ทำไมรู้ล่ะ"

"ก็กอดอยู่ทุกวัน ส่วนวันนี้ยังไม่ได้กอดกันเลย ใช่ไหมล่ะ"

"อา น่ารักที่สุด เจ้าแมวน้อย" ตะวันพูดแล้วกอดน้อง "ชื่นใจที่สุด" ตะวันกอดน้องแน่น

"อื้อ แน่นไปแล้ว" เหมียวจมูกถูกแก้มตะวันแล้วกอดกลับ

"หนูจะนอนแล้ว เดี๋ยวพี่วันออกไปก็ปิดไฟให้ด้วยนะ"

"อือ ได้สิ" ตะวันหยุดกอดแล้วสบตาน้อง ลูบผมเบาๆอย่างอ่อนโยน "ฝันดีนะ" : )

Comments


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page